ตลาดซานฟรานซิสโกว์ – ราคาทองคำส่งมอบล่วงหน้ามีการปิดตัวสูงขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีการยืนที่เหนือระดับ $1,500 ต่อออนซ์ หลังจากก่อนหน้านี้มีการร่วงลงติดต่อกันถึงสามวันทำการ เนื่องจากนักลงทันมีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางด้านการชำระหนี้ของกรีซ
ราคาทองคำส่งมอบล่วงหน้าเดือนสิงหาคมมีการปิดตัวสูงขึ้น $3.80 หรือ 0.3% ปิดตัวแตะที่ระดับ $1,500.20 ต่อออนซ์โดยในระหว่างวันทำการราคาทองคำมีการซื้อขายสูงสุดอยู่ที่ระดับ $1,507 ต่อออนซ์ในช่วงแรกของการซื้อขาย
เพื่อการช่วยเหลือและปรับปรุงปัญหาหนี้เสียของกรีซ รัฐบาลกรีซได้มีแผนการเพิ่มเงินโดยมีการขายทรัพย์สินในส่วนของเครื่องบินและรถไฟเพื่อเพิ่มเม็ดเงิน
ทองคำและตลาดล่วงหน้าอื่นๆมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวก โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนนำจากราคาน้ำมันดิบเช่นเดียวกับโลหะทางด้านอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยในขณะนี้จากการมองโลกในแง่ดีทำให้หุ้นในตลาดมีการทะยานตัวสูงขึ้น และความจำเป็นในการถือครองทองคำเนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ปลอดความเสี่ยงยังคงดูไม่ค่อนมีความน่าสนใจเท่าไรนัก
โดยเมื่อวานนี้สหรัฐได้มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซี่งมีการประกาศออกมาร่วงลงแตะที่ระดับ 58.5 จุดในเดือนมิถุนายนจากระดับ 61.7 จุดในเดือนพฤษภาคมเนื่องจากผู้บริโภคเกิดความกังวลทางด้านตลาดแรงงานและตัวเลขรายได้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐสภากรีซจะลงมติร่างมาตรการรัดเข็มขัดในสัปดาห์นี้ นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า ท้ายที่สุดท้ายรัฐสภากรีซจะผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อปูทางให้กรีซสามารถรับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
โดยทองคำจะได้รับแรงผลักดันเนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ปลอดความเสี่ยงในการลงทุน และหากมาตรการของกรีซมีการผ่านร่างไปได้ เชื่อว่าราคาทองคำน่าจะมีการตั้งฐานยืนได้ที่ระดับ $1,500 ต่อออนซ์
ทางด้านดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งใช้ชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ดเมื่อเทียบกับค่าเงินหกสกุลหลักๆ มีการร่วงลงมาแตะที่ระดับ 75.065 จุด จากระดับการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมีการยืนอยู่ที่ระดับ 75.452 จุด
ราคาซิลเวอร์ส่งมอบล่วงหน้าเดือนกรกฎาคมมีการปิดปรับตัวสูงขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดตัวแตะที่ระดับ $33.64 ต่อออนซ์
June 28, 2011, 2:45 p.m. EDT จาก MarketWatch
แปลโดยทีมวิเคราะห์ข่าวทองคำ MTS Gold
http://www.mtsgold.co.th/th/news/goldnews/index.php?ELEMENT_ID=6060
http://www.tnews.co.th/html/read.php?hot_id=18129
